วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

โปรแกรมโหราศาสตร์ไทย 10 ลัคนา


โหราศาสตร์เป็นศาสตร์เกี่ยวกับการทำนายอนาคต ทำนายโชคชะตาของบุคคล ปรากฏการณ์ต่างๆ ของบ้านเมืองและของโลก วิชาโหราศาสตร์ไทยเป็นระบบนึงของโหราศาสตร์ การทำนายจะใช้เวลาและตำแหน่งของดวงดาวต่างๆ บนท้องฟ้า ผูกดวงตั้งต้นการทำนาย เช่นเดียวกับโหราศาสตร์สากล ยูเรเนียน โหราศาสตร์ภารตะ โหราศาสตร์ไทยแบ่งหลายแบบหลายแขนงแตกต่างกัน อาจแบ่งตามรูปแบบปฏิทินที่ใช้ กฏเกณฑ์เงื่อนไขวิธีการทำนายแต่ละสำนัก ครูบาอาจารย์ และมีหลายสายวิชาเฉพาะแยกย่อยออกไป

ดูดวง 10 ลัคนา ผูกดวงสิบลัคน์ 10 ลัคนา เป็นโหราศาสตร์ไทยแขนงนึง ใช้ดาว 10 ดวง ปฏิทินสุริยยาตร์ตั้งต้นในการผูกดวง สมผุสดาว ๑๐ ลัคน์แตกต่างจากโหราศาสตร์ไทยตรงที่ โหราศาสตร์ไทยใช้ลัคนาเดียวซึ่งคำนวณจากดาวอาทิตย์เพียงดวงเดียว แต่การดูดวง 10 ลัคนา หรือ ผูกดวง 10 ลัคนา จะคำนวณลัคนาของดาวเคราะห์ทั้ง 10 คือ ดาวอาทิตย์(๑) ,ดาวจันทร์(๒) ,ดาวอังคาร(๓) ,ดาวพุธ(๔) ,ดาวพฤหัสบดี(๕) ,ดาวศุกร์(๖) ,ดาวเสาร์(๗) ,ราหู(๘) ,เกตุ(๙) และ มฤตยู(๐) ผูกดวงขึ้นเป็นดวงราศีจักร

ดังนั้นเมื่อผูกดวง 10 ลัคนา ดวงราศีจักรตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ต่างๆจะแตกต่างจากโหราศาสตร์ไทย เพราะกฏเกณฑ์การคำนวณสมผุสต่างกัน การทำนายจะใช้หลักเช่นเดียวกันกับดวงทั่วไปหรือลัคนาเดียวในโหราศาสตร์ไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับ ดวงเกษตร ดวงมาตรฐาน มหาอุจ มหาจักร ราชาโชค นิจ ดาวเจ้าเรือนใน 12 เรือน ดาวที่จะให้คุณหรือให้โทษ เป็นต้น

โปรแกรมโหราศาสตร์ไทย 10 ลัคนา








รายละเอียด >>> ดูดวง 10 ลัคนา

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฤกษ์

ฤกษ์ คือคราวหรือเวลาซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคล เพื่อประกอบกิจการงานต่างๆ เพื่อความสุข ความวัฒนาถาวร ความสำเร็จผลและประสิทธิ์ฯ ความเจริญให้ได้ความต้องการนั้นๆ  ฉะนั้น การหาฤกษ์เพื่อประกอบกิจการต่างๆ นั้น จะต้องทราบถึงจุดประสงค์ของเต้าการด้วยว่ามีจุดประสงค์จะประกอบกิจการนั้นๆ เพื่อประโยชน์อะไร

  • ต้องการเพื่อความสุขส่วนตัว หวังผลให้ตนเองมีความสุข ได้แก่การแต่งงาน เริ่มต้น การหมั้น ยกขันหมาก รดน้ำ เรียงหมอน เป็นต้น
  • ต้องการเพื่อประโยชน์ส่วนรวม หวังผลแห่งความมั่นคงถาวร ได้แก่ การสร้างถนน สะพาน ขุดบ่อ ก่อตึกและอาคาร โรงเรียน สร้างบ้านเมือง ก่อเสมา ทำปราสาท เจดีย์ วิหาร
  • ต้องการเพื่อความสำเร็จผลและประสิทธิ์ ซึ่งหวงผลใหเกิดความสำเร็จ  ได้แก่การอุปสมบท ลาสิกขาบท เรียนศิลปวิทยา หรือเดินทางเพื่อหวังความสำเร็จ เช่น ค้าขายติดต่อตกลงและทำสัญญา
  • ต้องการเพื่อประสิทธิภาพ หวังผลแห่งความแคล่วงคล่องในหารปฏิบัติงานให้สำเร็จตามความตั้งใจ ได้แก่การปลุกเสกทำเครื่องลางของขลัง เช่น เรียนวิทยาอาคม ทำพิธีฝังอาถรรพ์ ประจุพระ หล่อพระ สักยันต์ ลงประเจียดมงคลพิสมรทั้งปวง อาบว่าน อาบยา การรบทัพจับศึก
  • ต้องการเพื่อความเจริญ หวังผลให้เกิดมีความเจริญรุ่งเรืองแก่ครอบครัวหรือตนเอง ได้แก่การทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ย้ายจากบ้านเก่าขึ้นบ้านใหม่ เดินทางเพื่อไปรับตำแหน่งหน้าที่การงาน เปิดร้านค้า เปิดป้ายและเปิดสถานที่ทำการต่างๆ หรือทำเรือกสวนไร่นา

ดังกล่าวนี้ เพื่อเป็นแนวทางเกี่ยวกับการหาฤกษ์เพื่อประกอบกิจสำหรับเจ้าการนั้นๆ ที่จะทำกิจเพื่อประโยชน์อะไรให้ถูกต้อง แต่การหาฤกษ์ดี คือคราวหรือเวลาซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคลอันดีนั้นต้องประกอบด้วยฤกษ์ 2 ชนิด คือ ฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง ดังจะได้กล่าวต่อไป

ฤกษ์บน-ฤกษ์ล่าง

ดูฤกษ์บน คือคราวหรือเวลาซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคลททางเบื้อสูง กล่าวถึงการโคจรของพระจันทร์และตำแหน่งดาวเคราะห์ต่างๆ บนท้องฟ้า ถือเป็นเวลาหลัก กำหนดตำแหน่งดาวเคราะห์ ส่งกระแสอิทธิพลซึ่งเป็ฯกำลังโดยตรงจากดาวเคราะห์ เหมือนกับเวลาที่เกิดจากแสงอาทิตย์ ทางโหราศสตร์ได้กำหนดไว้ เช่น ฤกษ์ทลิทโท มหัทธโน โจโร ภูมิปาโล เทศาตรี เทวี เพชรฌฆาต ราชา สมโณ รวม ๙ ฤกษ์ เรียกว่าฤกษ์บนหรือนพดล ฉะนั้นฤกษ์บนได้แก่ดวงชาตาที่ใช้ตำแหน่งดาวเคราะห์ในท้องฟ้า ณ เวลาเกิดเป็ฯหลักที่เรียกว่า ดวงผูกชาตา

ฤกษ์ล่าง คือคราวหรือเวลาซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคลทางเบื้อใต้ฟ้า หรือทางเบื้อต่ำบนพื้นดิน โดยใช้วันทั้ง ๗ วน ประกอบด้วยดิถีขึ้นแรมและเดือนปีเป็นหลักกำหนดนับ เช่น วันอุบาทว์ โลกาวินาศ ธงชัย อธิบดี ดิถีพิฆาต ดิถีธงชัย วันจม วันลอย วันฟู กทิง วัน อัคนิโรธ ทักทิน ยมขันธ์ฯ ดังนี้เป็นฤกษ์ย่อยๆ ต่างๆ รวมเรียกว่าฤกษ์ล่างหรือภูมิดล

ฉะนั้น ฤกษ์ล่างได้แก่เรือนชาตาที่คำนวณขึ้นโดยใช้วัน เดือน ปีเกิด เป็นหลักและเป็นที่รองรับประจุกำลังอิทธิพลจากดาวเคราะห์ เหมือนนาฬิกา ซึ่งคำนวณจากอาทิตย์

ทั้งฤกษ์บน-ฤกษ์ล่าง เป็นของคู่กันโดยถือหลักที่ว่า สรรพสิ่งที่งหลายซึ่งเป็นของคู่เท่านั้น ที่จะอำนวยผลผลิตหรือประโยชน์ได้โดยสมบูรณ์ เช่น มนุษย์หรือสรรพสิ่งทั้งหลายซึ่งเป็นของคู่กันเท่านั้นที่จะอำนวยผลผลิตหรือประโยชน์ได้โดยสมบูรณ์ เช่น มนุษย์หรือสัตว์ก็มีเพศคู่ คือเพศผู้และเพศเมีย หลังงานไฟไฟ้ก็มีขั้วไฟเป็นคู่  คือขั้วไฟบวก และขั้วไฟลบ ในร่างกายของมนุษย์เองก็มีอวัยวะที่เป็นคู่เท่านั้น ที่จะอำนวยผลผลิตและผลประโยชน์ให้ได้ด้วยตนเอง เช่น แขนและขาเป็นต้น ส่วนอวัยวะที่เป็นคี่ก็ไม่สามารถที่จะอำนวยผลผลิตและประโยชน์ให้สำเร็จด้วยตัวของมันเองได้ไม่ จะต้องไขว่คว้าจากผู้อื่นมาให้เกิดเป็นคู่ จึงจะเกิดประโยชน์ เช่นปากเคลื่อนไหวเป็นคำพูด หูนั่นแหละคือคู่รับฟัง

ฤกษแยกออกเป็น 2 ประเภทคือ
๑.ฤกษ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจมนุษย์ อันได้แก่ฤกษ์ที่กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง 
๒.ฤกษ์ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของกรรม หรือด้วยอำนาจของเทพยดาฟ้าดิน เช่น กำเหนิดของมนุษย์และสัตว์ นิมิต หรือความเป็นไปต่างๆ

ความสำคัญ ฤกษ์บนมีความสำคัญกว่าฤกษ์ล่าง คือการพยากรณ์ต้องยึดถือความหมาย ดาวเคราะห์เป็นหลักใหญ่ โดยยึดถือเอาดาวเคราะห์ส่งกระแสอิทธิพลที่มีกำลังโดยตรงสามารถที่จะใช้และอยู่ได้ด้วยตนเอง สำหรับฤกษ์ล่างนั้นต้องอาศัยฤกษ์บนเป็นหลัก เพราะเป็นที่รองรับการประจุกำลังจากดาวเคราะห์ โดยใช้เพียง วัน เดือน ปี เกิด และต้องได้รับการตรวจสอบความเคลื่อนไหวแล้วแก้ไขให้มีความสัมพันธ์กับดาวเคราะห์ โดยถูกต้องอยู่เสมอ

แต่ทางโหราศาสตร์ ถือว่า ทั้งฤกษ์บนและฤกษ์ล่างเป็นของคู่กัน และมีความสัมพันธ์กันอย่างมั่นคงถาวรตลอดไปจะขาดอย่างไดอย่างหนึ่งเสียมิได้ เช่นคนเกิด วัน เดือนปี เวลาอะไรตรงกับคราวหรือเวลาซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคลทางเบื้องไต้ฟ้าหรือเปเบื้อต่ำพื้นดิน ถ้าตรงกับคราวหรือเวลาอันดี ก็เรียกว่า คนนั้นๆ ว่าเกิดมาดีและเกิดมาไม่ดีเท่านั้นเอง

ในขณะที่คนเกิดมานั้นจะเป็น วัน,เดือน,ปี,เวลา, อะไรก็ตามแต่จะเกิดมา แต่ทุกคนจะเลือกเกิดไม่ได้เด็ดขาด คราวหรือเวลาที่เกิดนั้น การโคจรของพระจันทร์และดาวเคราะห์ต่างๆ ร่างกายของคนเกิดขณะนั้น ถ้าเป็นกระแสอิทธิพลไม่ดี ก็เรียกว่า คนนั้นๆ เกิดมาฤกษ์บนไม่ดี

ฉะนั้น ทั้งฤกษ์บนและฤกษ์ล่าง   ชนิดนี้ จึงต้องมีคามสำคัญผูกมัดแน่นอยู่ที่การเกิดของแต่ละบุคคล เมื่อผูกดวงชาตาพยากรณ์จะทราบความดีร้ายโดยตลอด

อนึ่ง สำหรับการหาฤกษ์เพื่อประกอบกิจการต่างๆ ยังเลือกฤกษ์ได้ คือเลือกคราวหรือเวลาซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคนอันดี และส่วนมากถือการโคจรของพระจันทร์อยู่ในฤกษ์ที่ดี ประกอบกับฤฏษ์ทางพื้นดินดีด้วย ดังนั้นถ้าหากเราจะประกอบกิจอันใด ก็ควรรอคอยเอาคราวหรือเวลาซึ่งเหมาะเป็นชัยมงคล จึงจะเป็นการดีบังเกิดผลสมควรความปรารถนาทุกประการ เพราะฤกษ์ประกอบกิจเรารอคอยเลือกได้ ส่วนฤกษ์การเกิดของท่านแต่ละบุคคลนั้นเป็นฤกษ์ที่เลือกไม่ได้

คัดลอกจาก โหราศาสตร์ไทย เรียนด้วยตนเอง อ.สิงห์โต สุริยาอารักษ์ 

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โหราศาสตร์ไทย

โหราศาสตร์ไทย เป็นวิชาที่ใช้ทายกาลล่วงหน้าหรือดูการล่วงหน้า ใช้สำหรับพยากรณ์ผลกรรมของมนุษย์โดยอาศัยดวงดาวเป็นเครื่องพยากรณ์ 

ผลกรรมของมนุษย์ตามหลักพุทธศาสนา ตามที่แสดงไว้ในกัมมวิภังคสูตร ได้แสดงผลกรรมไว้ ๑๔ ประการคือ บางคนอายุยืน บางคนอายุสั้น บางคนมีโรคน้อย บางคนมีโรคมาก บางคนมีผิวพรรณดีบางคนมีผิวพรรณทราม บางคนมีศักดามาก บางคนมีศักดาน้อย บางคนมีทรัพย์สมบัติมาก บางคนมีทรัพย์สมบัติน้อย บางคนมีตระกูลสูง บางคนมีตระกูลต่ำ บางคนมีปัญญามาก บางคนมีปัญญาน้อย

โหราศาสตร์จะเป็นเครื่องบอกผลกรรม ๑๔ ประการ และความเป็นไปของมนุษย์ในห้วงระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดี แสดงเหตุและผลของดวงดาว ทำให้สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าของวิถีทางของมนุษย์ และเหตุการณ์ของโลกทั่ว ๆ ไป 

วิชาโหราศาสตร์ เป็นวิชาที่เก่าแก่เชื่อว่าเกิดในทวีปเอเซียก่อนแล้วจึงแพร่หลายไปยังแหล่งอื่น ในคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์ ซึ่งมีอายุก่อนพุทธศาสนาก็มีคำสดุดีดาวพระเคราะห์อยู่ด้วย สำหรับวิชาโหราศาสตร์ของไทยตามหลักฐานที่มีอยู่ แสดงว่าได้รับสืบทอดมาจากอินเดีย เมืองไทยเราตั้งอาณาจักรสุโขทัยก็ได้มีตำแหน่งพระมหาราชครู ซึ่งเป็นพราหมณาจารย์ และตั้งให้เป็นปุโรหิตประจำราชสำนักสืบต่อมาในสมัยอยุธยา สมัยธนบุรี และสมัยรัตนโกสินทร์ ก็ยังคงมีพราหมณาจารย์ดำรงตำแหน่งพระมหาราชครู


ในทางพระพุทธศาสนา สมเด็จพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้มีพุทธานุญาตให้ พระภิกษุสงฆ์เรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ในเรื่องฤกษ์ยาม เพื่อจะได้รู้เวลาทำอุโบสถสังฆกรรม อันเป็นกิจในพระพุทธศาสนา จึงได้มีชื่อ วัน เดือน ปี และฤกษ์แสดงไว้ท้ายบอกวัตรพระเป็นประเพณีสืบต่อมา ที่มาของเรื่องนี้มีอยู่ว่า สมัยหนึ่ง พระภิกษุทั้งหลายไปบำเพ็ญสมณธรรมอยู่ในอรัญญิกเสนาสนะได้มีหมู่โจรมาถามว่า วันนี้พระจันทร์กอร์ปด้วยนักขัตฤกษ์อะไร พระภิกษุตอบว่าไม่รู้ พวกโจรจึงว่า ชนเหล่านี้มิใช่สมณะจึงไม่รู้นักขัตตบาท คงจะเป็นพวกโจรมาซุ่มซ่อนอยู่ ว่าแล้วโจรเหล่านั้นก็เข้าทำร้าย พระภิกษุเหล่านั้นแล้วหลีกไป เมื่อความเรื่องนี้ทราบถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์จึงทรงมี พระพุทธฎีกาตรัสให้ประชุมพระภิกษุสงฆ์ แล้วจึงตรัสอนุญาต ให้ภิกษุที่ไปบำเพ็ญสมณธรรมในป่าพึงเรียนรู้นักขัตฤกษ์ สำหรับอรัญญิกวัตร เพื่อรักษาตนให้พ้นอันตรายจากโจร 

วิชาหมอดู จัดว่าเป็นบันไดขั้นต้นของวิชาโหราศาสตร์ ทั้งสองวิชาต่างก็ใช้ดวงดาวนพเคราะห์เป็นเครื่องวินิจฉัย หลักวิชาที่หมอดูใช้ได้แก่ ตำราเลข ๗ ตัว โดยอาศัย วัน เดือน ปี และยามเวลาเกิด โดยเทียบเข้ากับหลักการของดาวเคราะห์เป็นมูลฐานในการทำนาย ส่วนวิชาโหราศาสตร์มีการกำหนดท้องฟ้าเป็นจักรราศี โดยแบ่งออกเป็น ๑๒ ราศี แบ่งออกเป็น ๒๗ นักษัตร ๓๖ ตรียางค์ และ ๑๐๘ นวางค์ นอกจากนั้นยังมีตำรามหาทักษาพยากรณ์ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญยิ่ง หลักตำราโหรโบราณแทบทุกคัมภีร์ มักจะนำเอาหลักเกณฑ์ในมหาทักษาพยากรณ์ ไประคนกับหลักเกณฑ์ในวิชาโหราศาสตร์ ในวิชาโหราศาสตร์แบ่งจักรราศีออกเป็น ๑๒ ราศี แล้วจัดดาวพระเคราะห์เข้าครองประจำทุกราศี ที่เรียกว่า เกษตร์ และจัดให้ธาตุทั้งสี่ คือ ไฟ ดิน ลม น้ำ เข้าครองประจำทุกราศี กำหนดให้ดาวพระเคราะห์เกษตร์ประจำราศี เข้าครองธาตุตามลักษณะธาตุที่ประจำราศีนั้น และทุกราศีก็กำหนดให้เป็นทิศต่าง ๆ ในวิชาหมอดู มีการแบ่งท้องฟ้าออกเป็น ภูมิอัฐจักรพยากรณ์ มีดาวพระเคราะห์ ธาตุและทิศเข้าครองเหมือนหลักเกณฑ์ในวิชาโหราศาสตร์

ดูดวงส่วนตัว ดูดวงทางโทรศัพท์

ฤกษ์ปลูกบ้าน

ฤกษ์ปลูกบ้าน ตามตำราโบราณท่านได้กำหนดไว้ดังนี้

- ดิถี ให้ได้ดิถี ๑.๒.๖.๗.๑๓.๑๕
- เดือน ให้ได้เดือน ๑.๒.๖.๙.๑๒.๑๔
- วัน ให้ได้วัน ๑.๕ เป็นวันอุดม วัน ๒.๕๖ เป็นวันมัธยม วัน ๓.๗ ห้าม มิให้ปลูกเรือนใหม่
- ฤกษ์ ให้ได้ฤกษ์ ๒.๔.๕.๗.๘.๑๐.๑๑.๑๒.๑๓.๑๔.๑๕.๑๗.๑๘.๑๙.๒๐.๒๑.๒๔.๒๕
- ลัคนาฤกษ์ควรให้สถิต ณ ราศีสิงห์,กันย์, พฤภ,มิถุน,กุมภ์, และควรสอบดูตามเกณฑ์อื่นๆ อีกด้วย เพื่อให้ชอบด้วยลักษณะชาตาของเจ้าการ และควรใช้ฤกษ์จำพวกมหัทธโนฤกษ์, ภูมิปาโลฤกษ์, เทวีฤกษ์ และราชาฤกษ์
- อนึ่ง ควรใช้ตำราอันกล่าวด้วยการปลูกสร้างบ้านเรือน ดังนี้

วันปลูกเรือน

- การปลูกเรือนวันอาทิตย์ จะเดิดทุกข์และอุบาทว์
- ถ้าปลูกเรือนวันจันทร์ ทำแล้ว ๒ เดือน ได้ลาภผ้าผ่อนและของขาวเหลือง
- ถ้าปลูกเรือนวันอังคาร ทำแล้ว ๓ วัน จะเกิดความเจ็บไข้ และไฟจะใหม้เรือน
- ถ้าปลูกวันพุธ จะได้ลาภผ้าผ่อนอันดี
- ถ้าปลูกเรือนวันพฤหัสบดี จะได้ความสุขสำราญ ทำแล้ว ๕ เดือน จะได้ลาภมากหนักหนา
- ถ้าปลูกเรือนวันศุกร์ ความทุกข์ความสุขเท่ากัน ทำแล้ว ๓ เดือน จะได้ลาภเล้กน้อย
- ถ้าปลูกเรือนวันเสาร์ จะเกิดโรคพยาธิ เลือดตกยางออก ทำการแล้ว ๕ เดือนจะเจ็บไข้มาก ไม่ควรทำมิดี

เดือนปลูกเรือน
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๕ ทุกข์เท่าฟ้าผ่ามาถึงตน เดือนนี้มิเป็นผล อันตรายจักบีฑาฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๖ จะอิ่มอกต่างภาษา สิ่งสินจะพูนมาก สรรพทรัพย์ก็เนืองนองฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๗ เสียบำเหน็จสิ้นทั้งผอง ทรัพย์สินอันตนครองเสียทั่วตัวจะร้ายไฟ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๘ ให้รอนแรงทุรนใจ สิ่งสินตนใดๆ จะเก็บไว้บ่อมิคงฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๙ ยศศักดิ์เจ้าก็มั่นคง สิ่งสินอันจำนง สรรพทรัพย์ก็เพิ่มมาฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๑๐ จะฉิบหายจะตกขื่อคา ทั้งพยาธิจะบีทา อันตรายมาปะปนฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๑๑ อันความเท็จจะใส่ตน เดือนนี้มิเป็นผล จะเกิดภัยอันตรายฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๑๒ เงินทองย่อมเหลือหลาย ช้างม้าวัวควาย มีทั้งทาสและ ทาสีฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือนอ้าย ย่อมเป็นเศษฐี สิ่งสินจะเพิ่มพูน เพราะเดือนนี้จะให้ผลฯ
- ถ้าปลูกกเรือนในเดือนยี่ ฤกษ์ดีถีก็ชอบกล ข้าศึกและแสนผล อาจกันคนแลศัตรูฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๓ ภัยติดตามดูอดสู ครั้นเมื่อถึงฤดูย่อมเกิดภัยอันตายฯ
- ถ้าปลูกเรือนในเดือน ๔ เดือนนี้สุขสบาย ทุกโศกบรรเทาหาย ความสบายย่อมพูนมา

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หมอดู ดูดวงทางโทรศัพท์

หมอดู ดูดวงทางโทรศัพท์

หมอดู ดูดวงส่วนตัวทางโทรศัพท์ ดูดวงสด ถามตอบได้ทุกปัญหา เรื่องทั่วไปเรื่องทุกข์ใจ ปัญหาไม่สบายใจเป็นห่วงเป็นกังวล อาชีพการงานที่ถูกโฉลก สภาพคล่องการเงิน ความรักคู่ครองเนื้อคู่หรือการแต่งงาน โชคลาภ ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวังข้อ ข้อเสียข้อดีในดวงชะตา ภาพรวมในอนาคต เหตุการณ์ช่วงนี้ เช็คภาพรวมดวงชะตาดีร้ายประการใด

หรือถามเรื่องที่สนใจเฉพาะ จะได้อะไร? ทำอะไร? เมื่อไหร่? การค้า การลงทุน จังหวะโอกาสสำหรับการสำคัญ ลาภยศ รวมถึงฤกษ์สำคัญต่างๆ ฤกษ์แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ฤกษ์ออกรถ วิเคราะห์เลข ตั้งชื่อ ฯลฯ ถามได้ทุกเรื่องที่อยากรู้ ดูดวงเฉพาะบุคคลคุยสดสายตรงส่วนตัว กับหมอดูมืออาชีพประสบการณ์สูง พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม. ทุกวัน


รายละเอียดเพิ่มเติม : หมอดู ดูดวงทางโทรศัพท์

ทํานายดวง เกิดวันเสาร์

ดูดวงเกิดวันเสาร์

คนที่เกิดวันเสาร์ค่อนข้างมีเกณฑ์ชะตาคล้ายคนที่เกิดวันอังคารในด้านของใจที่โดดเด่น กล้าแกร่งหัวหาญจนคล้ายจะเป็นคนประเภทใจนักเลงกล้าได้กล้าเสีย พูดจาหวานนุ่มนวลไม่เป็น เหมือนคนดุดันโหดร้ายเพราะพูดเสียงแข็งหรือไม่ก็พูดน้อย หรือพูดไม่มีหางเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง มีครอบครัวที่มากญาติมากพี่น้อง ถ้าวัยเด็กพ่อแม่ไม่หย่าร้างก็จะเป็นว่าพ่อแม่ต้องไหลต้องห่างกัน ยามเด็กเคยตกน้ำหรือ   ถูกสุนัขกัดมีแผลเป็นทั้งด้านขาวและด้านซ้ายของร่างกาย 

นิสัยใจคอของคนวันนี้ความจริงแล้วเต็มไปด้วยความสุขุมรอบคอบ จะคิดไตร่ตรองครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะทำอะไรลงไป บางครั้งก็คิดจนไม่ตัดสินใจสักที หรือตัดสินใจไปแล้วก็เปลี่ยนแปลงอีก คือเป็นคนใจโลเลไม่เด็ดเดี่ยวหรือหนักแน่นนัก แต่ในเรื่องเพื่อนฝูงแล้วถึงไหนถึงกัน ชอบคบหาผู้คนมากมายไม่เลือกชนชั้น แต่ถ้าคบเพื่อนสูงฐานะหรือตำแหน่งดีกว่าจึงจะได้ดี เป็นคนที่ใจหล้าบ้าบิ่น ยามมีอารมณ์โมโหแล้วไม่คิดเลย จะเข้าต่อยตีจนใครก็ยากจะให้มาปราบได้โดยทั่วไปเหมือนคนหยิ่งยโส แต่ถ้าพูด พูดฉลาดฉะฉาน รู้จักพูดถูกใจคนได้ถ้าจะพูด

มักขี้เบื่อง่าย มีความอดทนดีแต่ไม่ชอบสิ่งที่ซ้ำซาก ไม่มีพัฒนาให้แปลกใหม่ เป็นคนอยากรู้อยากเห็นชอบแสวงหาอะไรใหม่ ๆ เป็นกำไร ชีวิต ดวงชะตามักจะเสียเพราะเพื่อนหรือเพื่อนนำความวุ่นวายมาสู่เสมอ เป็นคนที่มีเพื่อนพ้องมาก แต่มีที่ดีไม่กี่คน มักจะเป็นคนดื้อเงียบแม้ไม่โต้แย้งขัดใจกับใครตรงๆ แต่ก็ไม่ได้เชื่อฟังเขาเลย จะเชื่อแต่ความคิดของตัวเอง มีทิฐิ มีเล่ห์เหลี่ยมพอตัว คิดหาทางก้าวหน้าเพราะใฝ่ดี แต่บางครั้งก็สนใจเรื่องของตัวเองมากไปจนเหมือนเห็นแก่ตัว 

เมื่ออายุถึงวัยผู้ใหญ่ในบางคนจะชอบอยู่แบบสุขสงบเรียบง่าย ไม่อยากวุ่นวายในแวดวงสังคม ถ้ามีเพื่อนไม่ดีหรือร่ำเรียนมาน้อยมักจะถูกชักจูงไปในทางผิดๆ ได้ง่าย เพราะชอบความสุขสำราญ ชอบงายง่ายๆ ที่ไม่ต้องเคร่งเครียดนัก ดวงมักมีคู่มาก แต่ไม่ใช่คู่แท้ เพียงแค่ผ่านไปเท่านั้น ต้องระวังเรื่องเพื่อน ไม่เช่นนั้นจะเดินไปติดในอบายมุขก็ได้ ถ้าเชื่อฟังคำเตือนคนอื่นบ้าง ลดความห้าวหาญลงไปจึงจะได้ดีมีอนาคตที่สดใส - ตําราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์

ทํานายดวง เกิดวันศุกร์

ดวงเกิดวันศุกร์

คนที่เกิดวันนี้มักมีบุคลิกดี  มีปากค่อนข้างเด่น คือพูดจาหวานหูน่าฟัง ช่างยกยอเอาเอาอกเอาใจ ปลอบประโลมคนได้เก่งกาจ แม้วัยเยาว์จะอาภัพแต่ก็ไม่ได้ลำบากยากเข็ญ ค่อนข้างมีความสุขสบายมีตระกูลที่ดีที่เดียว แต่มีญาติก็เหมือนไม่ค่อยมี ส่วนใหญ่จะกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เล็ก เป็นคนชอบแต่งตัว รักสวยรักงามมาก  แต่แต่งตัวไม่ขึ้นนัก มักนิยมของงามหรูหราโออ่า แต่เป็นไปในทางสมถะ มิได้เข้าสังคมฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม

ทางด้านลักษณะนิสัยเป็นคนขี้น้อยใจ จิตใจดี ใสซื่อ ไม่เคยคิดแค้นใคร ชอบพูดจาอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ยามโกรธแล้วปากร้ายพูดให้คนเกลียดได้ ทั้ง ๆ ที่หายเร็วลืมเร็ว เป็นคนซื่อมาก ซื่อตรงจนถูกหลอกถูกดูหมิ่นได้เหมือนไม่ทันคน แต่ในด้านความรู้ความสามารถนั้นมีโดดเด่น เก่งงานศิลปวิทยา สติปัญญาก็ฉลาดเฉลียวแต่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม รักเพื่อนรักฝูง มีน้ำใจเมตตากรุณา ทำคุณคนไม่ขึ้น ดีต่อใครเขาก็คิดสำนึกตอบ มักจะช่างบ่นพร่ำประสาคนจู้จี้จุกจิก ไม่ได้ชอบวางแผนการชีวิตอย่างจริงจังนัก ไม่ทะเยอทะยานสูงนัก ชอบชีวิตสุขสงบ ชอบความมั่นคงปลอดภัย ไม่นิยมเลี่ยงภัยผจญโชค มีความรับผิดชอบสูง ยึดการทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วจะได้ดีในวันหน้าเอง ใช้จ่ายเงินทองเก่งแต่รู้จักเก็บหอมรอมริบ ชอบทำบุญทำทาน ชอบจินตนาการ มีความคิดเป็นระเบียบเรียบร้อยละเอียดอ่อน

ดวงชะตามักถูกเพื่อนพ้องหรือพี่น้องมาเบียดเบียนมาพึ่งพาอาศัย แต่ตัวเองก็ยินดีช่วย ต้องทำงานที่ใช้ความสามารถของตัวเองโดยตรง เป็นทางพรสวรรค์จะได้ดีกว่าทางที่อบรมเล่าเรียนมา เรื่องคู่นั้นค่อนข้างอาภัพ เจอคนคู่ควรกัน รักแต่ก็ต้องแยกจาก มีคนมาชอบพอเสมอ แต่ไม่ควงคู่อยู่กันยั่งยืนนานนัก เป็นคนเจ้าชู้หมกมุ่นในโลกีย์ ยามมั่งมีศรีสุขฮึกเหิมจนมีเคราะห์หนักๆ ถึง 2 ครั้ง โดยทั่วไปมักไม่ตกยาก เพราะมีความรู้ดีและมีผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความเอ็นดูสนับสนุนอยู่เสมอ แต่จะรุ่งโรจน์ได้ก็ด้วยทำงานสร้างตนเองเป็นคนที่มีฐานะความเป็นอยู่สุขสบายไม่ขาดไม่แคลน มักเป็นที่พึ่งของพ่อแม่และพี่น้อง 

ให้ระมัดระวังความใจอ่อนใจดีของตนจะพาให้สูญเสียเงินทองหรือเสียใจได้ ไม่ควรไว้ว่างใจใครง่ายๆ ดั่งที่เคยเป็นมา ระวังอารมณ์และความหัวแข็งจะทำให้เกิดแตกร้าวเศร้าใจ ชีวิตด้านอื่นความจริงดีพอแล้ว แต่จะมีความทุกข์ในความสัมพันธ์กับคนหรือกับพี่น้อง - ตําราพรหมชาติ ฉบับสมบูรณ์